จะขอเกริ่นยาวๆให้เหมือนกับบทความที่ดีควรจะทำสักหน่อยก็แล้วกันครับ
ในปีที่ผ่านมานั้น เรียกได้ว่าเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ตลอดเวลา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับการใช้ชีวิตของผู้คน ทั้งในแง่ของชีวิตประจำวัน พฤติกรรม การอยู่อาศัย การทำงาน และในด้านอื่นๆมากมาย
เมื่อเราสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น เราจะพบว่าไม่ใช่แค่เพียงความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่ความถี่ในการเปลี่ยนแปลงนั้นก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน พูดง่ายๆก็คือทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วและบ่อยมาก จนทำให้ ”ความไม่แน่นอน” กลายมาเป็นคำพื้นฐานที่เราได้ยินจนคุ้นหู และบางครั้งก็อาจเผลอชินชากับมันไป (เพราะได้ยินบ่อยเกิน) จนพอรู้ตัวอีกทีก็ตามไม่ทันซะแล้ว
ถ้ามองดูในมุมของการออกแบบแล้ว เราเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องคอยสอดส่องรับรู้การเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้คน ผู้ใช้งาน ลูกค้า ป้าข้างบ้าน หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง เพื่อที่จะได้พร้อมรับมือกับอนาคตที่คาดเดาได้ยากที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ หรืออาจจะมาถึงแล้ว หรืออาจจะผ่านไปแล้วก็ได้
ทุกๆครั้งที่ทางทีมเราเองมีการประชุมหรือมีการค้นหาข้อมูลที่ต้องนำมาใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์ตลอดในปีที่ผ่านมา เราได้ค้นพบประเด็นต่างๆที่น่าสนใจและมองว่าอาจเป็นเทรนด์ในปีต่อๆไป จึงนำมารวบรวมมาเรียบเรียงและเผยแพร่ในรูปแบบของบทความ หวังว่าจะอ่านง่ายและสร้างประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย
ไปดูกันเลย…
1.เรื่องสีนั้น สำคัญไฉน
“เรากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน สี PANTONE 17-3938 หรือ Very Peri นั้นทำให้รู้สึกถึงมุมมองและวิสัยทัศน์ของความไว้วางใจ และนึกถึงตระกูลสีน้ำเงินอันเป็นที่โปรดปราน”
– Leatrice Eiseman,
“ในขณะเดียวกันกับที่สีน้ำเงินกำลังรายล้อมอยู่นั้น เรายังพบสีม่วง-แดงอยู่ภายใน ทำให้สี Very Peri สะท้อนถึงช่วงเวลาที่เบิกบาน การมีทัศคติที่ร่าเริงสดใส บ่งบอกถึงตัวตนได้อย่างมีพลัง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์อย่างกล้าหาญและแสดงออกอย่างมีจินตนาการ” — Leatrice Eiseman, ประธานกรรมการผู้บริหารระดับสูงแห่ง Pantone Color Institute กล่าวอธิบายไว้ในบทความของ Pantone เอง
ถ้าต้องพูดถึงเรื่องสีแล้ว จะให้พูดถึงแค่สีประจำปีอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะนอกจาก Very Peri แล้ว ยังมีการพูดถึงการใช้สีในรูปแบบต่างๆที่น่าจะเป็นเทรนด์สำคัญในปีนี้อีกด้วยเช่นกัน…
Colorful Minimalism
คิดว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับภาพสไลด์สไตล์มินิมอลของลุงสตีฟ จ๊อบ กันเป็นอย่างดี ตัวหนังสือสีดำขลับกับแบคกราวน์สีขาวจั๊วะ แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการผสมผสานสีสันต่างๆลงไป เพื่อที่แบรนด์จะได้สามารถแสดงออกและสื่อสารถึงอารมณ์ของผู้บริโภคได้มากขึ้น แต่ยังดูมินิมอลอยู่นะ (ถ้ายังไม่ค่อยเห็นภาพ ให้นึกถึงสไลด์ช่วงหลังๆของ Apple ในงาน WWDC)
Dark Mode
ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้แบตเตอรี่มือถือลดช้าลงและสบายตาในการอ่านมากขึ้น แต่ Dark Mode นั้น สามารถสร้างความน่าสนใจให้กับสื่อของเรา ด้วยพื้นหลังสีดำสนิท ที่ทำให้ Object ที่เรานำเสนอดูโดดเด่นขึ้นมา ในหลายๆเว็บไซต์อย่าง Facebook หรือ Twitter ก็ได้มีการนำเอา Dark Mode ใส่ไว้เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานอีกด้วย
Landscape Palette
การ Work From Home โดยที่นั่งทำงานอยู่ในพื้นที่บ้านของเรานานๆก็ทำให้เหนื่อยล้าได้ทั้งร่างกายและจิตใจ การใช้กลุ่มของสีธรรมชาติเข้ามาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบอย่างสถาปัตยกรรม หรือสถาปัตยกรรมภายในนั้น เพื่อที่จะต้องการให้ผู้ใช้งานนึกถึงธรรมชาติอันผ่อนคลาย โดยมีงานวิจัยกล่าวไว้ว่ากลุ่มสีเหล่านี้สามารถช่วยลดความตึงเครียด ความดันและอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้งานได้ จึงเป็นโอกาสที่ดีทีเดียวที่จะได้กลุ่มนี้เข้ามาช่วยเยี่ยวยาจิตใจให้กับผู้ใช้งาน
2.เรื่องราวผ่านตัว”อักษร”ที่ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด
Narrative Typography
****ในยุคของการทำการตลาดอย่างสุดโต่ง(ปัจจุบันนี้แหล่ะ) แบรนด์จำเป็นจะต้องจริงใจต่อทั้งตัวแบรนด์เองและตัวลูกค้าเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันแบรนด์นั้นก็ต้องสามารถแสดงออกถึงตัวตนได้ชัดเจนเช่นกัน ไม่ใช่แค่เพื่อให้จดจำได้ แต่ให้สามารถเข้าถึงเรื่องราว จิตวิญญาณ วัฒนธรรม ได้ในระดับ Hyperlocal (ดีพสุดๆเท่าที่จะดีพได้)
ร่ายมาซะยาว ที่จะกล่าวคือไม่ใช่เพียงแค่โลโก้ แบนเนอร์ หรือรูปภาพต่างๆของแบรนด์ที่จะต้อง Hyperlocal แต่ในขณะเดียวกัน ยังถลำลึกลงมาถึงการออกแบบตัวอักษรเพื่อให้สามารถสื่อสารออกมาได้ถึงใจสุดๆ
ในบทความของ Shaping Design ยังได้กล่าวถึงงานของคุณ Manav Dhiman ที่สามารถออกแบบรูปแบบตัวอักษรชื่อ ManVsBombay ที่นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังลงลึกถึง Pain Point เพื่อแก้ปัญหาของชาวอินเดียด้วยการพิมพ์ตัวแฝด (อธิบายง่ายๆคือ พิมตัวอักษร 2 ตัวแล้วตัวอักษรมารวมร่างกัน) ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานพิมพ์ R+s ก็จะกลายเป็นสัญลักษณ์หน่วยเงินรูปีขึ้นมาทันที ซึ่งปกติแล้วก็ไม่รู้จะต้องพิมพ์ยังไงด้วยซ้ำ
จริงๆแล้วศิลปิน/นักออกแบบในไทยที่มีผลงานในด้านนี้ก็มีมากมายทีเดียว ถ้าได้มีโอกาสได้ขอสัมภาษณ์หรือพูดคุยกัน จะนำมาลงเป็นบทความละเอียดๆให้อ่านต่อไป
Text-Heavy Video
ก็เป็นเหตุมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นี่แหล่ะ ที่ทำให้การถ่ายทำวีดิโอ หรือภาพยนต์เป็นไปได้ยากขึ้น (ถ้าให้ยกตัวอย่างก็เช่นช่วงที่พรก.ฉุกเฉินสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายทำในสถานที่สาธารณะ และในสตูดิโอถ่ายทำได้ไม่เกิน 5 คน)
ในการทำสร้างสรรค์สื่อประเภทวีดิโอของหลายๆแบรนด์หลายๆสำนัก ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้อนิเมชั่นหรือโมชั่นกราฟฟิคเข้ามาทดแทน หนึ่งในไอเดียที่นำมาใช้คือการใช้ตัวอักษรใหญ่ๆเป้งๆมาช่วยเล่าเรื่องผ่านวีดิโอแทนคำพูดหรือการแสดง
ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ดีเช่นกันที่แบรนด์จะสามารถสื่อสารตัวตน สีสัน รูปแบบตัวอักษร และกราฟฟิคที่เป็น Identity ของแบรนด์เองผ่านทางสื่อโฆษณาได้อย่างชัดเจน
3. เราเท่ยังไง บ้านเราก็เท่อย่างนั้น
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในปีที่ผ่านมา ผู้คนต่างให้ความสนใจการแต่งบ้านกันมากขึ้นจริงๆ เฟอร์นิเจอร์สีขาว-ไม้ดูมินิมอลก็เป็นสไตล์ที่ถูกอกถูกใจใครๆหลายๆคนมาเป็นเวลานาน หรือ Mid-Century Modern ที่มีวัสดุที่โดดเด่นอย่างพลาสติกและความมันวาวของโลหะ ก็เป็นที่นิยมในการตกแต่งบ้านที่อยู่อาศัย รวมไปถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟอีกด้วย
ซึ่งไม่เพียงสะท้อนความเป็นตัวตนของเราออกมา แต่ยังสร้างความเบิกบานใจให้กับผู้ใช้งานในช่วงเวลาที่ต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านนานๆแบบนี้ เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ จึงขอนำเสนอแนวคิดที่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่เป็นไอเดียที่ถูกนำกลับมาเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากและคาดว่าจะมากขึ้นอีกในปีนี้
Memphis Style
สไตล์สุดเท่ เตะตา สะดุดใจ อย่าง Memphis Style นั้น ถือกำเนิดมาจากกลุ่มนักออกแบบชาวอิตาลีในช่วงปี 80 โดยที่ชื่อของกลุ่ม Memphis นั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงของ Bob Dylan ที่ชื่อว่า “Stuck Inside of Mobile with the Memphis Blues Again” ที่เปิดซ้ำๆวนไปตลอดการประชุมพบปะกันครั้งแรกของกลุ่ม
สีสันที่ฉูดฉาด จัดจ้าน รูปทรงเลขาคณิตแปลกๆอย่างขอบหยักๆเหมือนฟันเลื่อยและทรงขนมเปียกปูน กลุ่ม Memphis ได้ผสมผสานแรงบันดาลใจจากศิลปะแนว Kitsch ในปี’50, Art Deco และ Pop Art ออกมาเป็นผลงานที่โดดเด่น และค่อนข้างที่จะแปลกแหวกแนว ขัดแย้งอย่างยิ่งกับแนวคิดก่อนหน้านั้นที่เน้น Function ไม่เน้นตกแต่งเลย ทำให้ Movement ของกลุ่ม Memphis นี้ได้ผลักดันและขยายขอบเขตของความเป็น Postmodernism มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้จะได้เป็นประโยชน์และแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนผู้อ่าน ถ้าชอบบทความแบบนี้ อย่าลืมแชร์ คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้กับทีมผู้เขียน ทั้งนี้ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอทุกคนให้โชคดีและสร้างสรรค์กับปี 2022 ครับ
